วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2558

“โย” ท้าชน “บี” ให้รอดูไม้เด็ด! เคลียร์ครั้งสุดท้ายก่อนขึ้นศาล

“โย” ท้าชน “บี” ให้รอดูไม้เด็ด! เคลียร์ครั้งสุดท้ายก่อนขึ้นศาล
        “โย ยศวดี” เผยให้ทนายจัดการเคลียร์ “บี น้ำทิพย์” ครั้งสุดท้าย ลั่นไม่มีการต่อรองอะไรอีกแล้ว เหน็บ 5 เดือนพูดแต่เรื่องซ้ำซาก ยืดเยื้อไม่ยอมจบ บอกถ้าไม่จบเตรียมรอรับเซอร์ไพรส์ เจอกันในศาล ยันจำนวนเงินเคลียร์กันไม่ลงตัวไม่ถึง 7 หลัก หากมีอะไรผิดพลาดตนยินดีชดใช้
   
       นำทีมขบวนพาเหรดท้าลมร้อนรับซัมเมอร์ ปิดถนนย่านสรงประภา เปิดตัวคอนโดโครงการ “J.W. @ Donmuang” งานนี้ “โย ยศวดี หัสดีวิจิตร” ก็ ไม่วายถูกสื่อมวลชนจับตัวมาเคลียร์กรณีปัญหาคาราคาซังปิดบริษัทอาหารเพื่อ สุขภาพ ที่ถึงตอนนี้ก็ยังยืดเยื้อไม่ยอมจบ โดยคู่กรณีอดีตเพื่อนรัก “บี น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์” ได้ออกมาเปิดใจพร้อมชนอีกฝ่ายเต็มสูบ โดยสาวโยเผยว่าตนก็พร้อมขึ้นศาลเต็มแก่ บอกแสนเบื่ออีกฝ่ายคุยไม่รู้เรื่อง ทนายห้ามออกมาพูดถึงเรื่องดังกล่าวแต่ก็ยังเอามาแฉต่อหน้าสื่อไม่ยอมจบ
   
       “จริงๆ เวลาประชุมต้องบอกว่าเขามอบหมายหน้าที่มาให้กับเพื่อนชายแล้วเนี่ยก็ไม่เข้า ใจว่าเขาไม่ได้สื่อสารกันหรือยังไง เพราะทุกครั้งคือหลังจากประชุมเสร็จทนายกับทนายก็ได้พูดไปแล้ว ว่าเราจะไม่มีการสัมภาษณ์จนกว่าทุกอย่างจะสรุปเรียบร้อย แต่เหมือนก็ไม่เคยห้ามได้ เสร็จปุ๊บเขาก็ต้องสัมภาษณ์ทันทีทั้งที่ ตัวเขาก็ไม่เคยเข้าร่วมประชุมด้ว คราวนี้ฟังแล้วก็เลยผ่านๆ ไม่ได้คิดอะไรผ่านๆ ไม่ได้ใส่ใจเพราะเราถือว่าในเมื่อมอบหมายมาแล้วตัวเขาเองก็หมดหน้าที่ตรงนี้ แล้วเนอะก็เป็นหน้าที่ของเพื่อนชายเขามาจัดการเอง แล้วเราก็สื่อสารกับเพื่อนชายเขาได้รู้เรื่องมากกว่าเยอะ แล้วก็ทางทนายเองก็คุยกันเองมันก็ไม่ได้มีหน้าที่อะไรที่เราสองคนต้องมานั่ง เถียงกันอีก”
   
       “คือมันจะเคลียร์ไม่ได้ต่อเมื่อมันยังปิดบริษัทไม่ได้ แล้วก็เขาไม่ยอมรับในเงื่อนไขที่เราได้ทำมาแล้ว แต่ ต้องพูดเลยว่าไม่เคยต่อรองใดๆ ทั้งสิ้นในระยะเวลาที่ผ่านมา 5 เดือนทุกอย่างเป็นเหมือนเดิม กระดาษตัวเดิมแบบเดิมไม่เคยลดหลั่นอะไรที่เขาต้องการ เพราะฉะนั้นคือถ้าเขาต้องการอะไรก็ไปพึ่งศาลเท่านั้นไม่เคยต่อรองอะไรด้วย เลย คือบางเอกสารที่เขาจำไม่ได้บ้างว่าเขาทำหรือเปล่าหรืออะไรก็ตามตรงนี้ให้ เป็นหน้าที่ของศาล ตัดสินมันก็ง่ายเนอะเพราะเอาตามจริง มัน 5 เดือนแล้ว ถ้ายังยืนกระต่ายขาเดียวมันก็ไม่จบ”
   
       “จริงๆ ตกลงกันทุกครั้ง แต่เขาคงเห็นว่าไม่มีใครกล้าฟ้องร้องมั้ง ตัว เราก็เฉยๆ ไม่ได้ใส่ใจ ที่มันยืดเยื้อเกี่ยวกับจำนวนเงินไหม คือตอนนี้มันถึงจุดที่เขาไม่ได้เป็นคนตัดสิน โยถึงบอกว่าโยไม่ยึดติดคำพูดเขาเพราะในเมื่อเพื่อนชายเขาเป็นคนตัดสินโดยมอบ หมายมาให้แล้ว คือต้องให้คนที่มานั่งดูเอกสารจริงๆ เป็นคนตัดสินน่ะค่ะ เพราะฉะนั้นเขาอยากพูดอะไรก็พูดไป แต่คำที่จะต้องจบก็คือคำพูดของทนายกับเพื่อนชายเขาเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีปัญหาอะไร”
   
       บอกแนวโน้มเจอกันในศาลมีโอกาสสูง ถ้ามีเอกสารตัวไหนผิดพลาดตนยินดีชดใช้คืน
       “การนัดหมายขึ้นศาลคงเร็วๆ นี้ จริงๆ ยังไม่ได้ขึ้นศาลเลย เร็วๆ นี้แหละค่ะ ตัว เราไม่ได้กลัวนะ อยากจะให้เรื่องขึ้นศาลด้วยซ้ำ อะไรถูกผิดก็ว่ากันไปเหอะก็คือจบง่ายกว่า คือยังไม่มีใครฟ้องใครค่ะ เอาตามจริงก็คนที่เดือดร้อนอยู่ก็คงเป็นผู้ฟ้องถูกไหม ในขณะที่เราไม่ได้เดือดร้อนเพราะฉะนั้นถ้าเขาเดือดร้อนมากก็ให้เขาฟ้องไปเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาก็ไม่ได้ฟ้อง เพราะฉะนั้นคือก็จะรอตรงที่ว่าเอาจุดที่จบแล้วเป็นที่พอใจหรือเปล่าแค่นั้น เอง (เขาบอกโยไม่ติดต่อไป) อุ้ย ไม่มีหรอกมันไม่ต้องติดต่อเขาหรอก เขามีทนายเขามีทุกคนมาคุย ไม่มีเหตุผลที่เจอกัน ต้องคุยที่งาน ไม่มีเหตุและผลในเมื่อเคยประกาศมาแล้วว่าให้เป็นแค่เพื่อนร่วมโลกก็ขอให้ยึด คำพูดนั้นต่อไปเรื่อยๆ แล้วก็คุยแต่เรื่องธุรกิจพอแล้ว”
   
       “ไม่ได้เชื่อมั่นในหลักฐานที่มี แล้วก็ไม่สามารถพูดยืนยัน ได้ว่าตัวเองเป็นคนดี ต่อให้เป็นคนดีก็ไม่กล้าพูดเพราะฉะนั้นถือว่าอะไรที่เราเคยทำเราจำได้เราคน ทำงานตรงนี้เองทุกอย่าง ผ่านตาผ่านมือเรามาทั้งหมด จะบอกว่าไม่รู้ ไม่ทราบไม่ได้ เรารู้ทุกเรื่องเพราะฉะนั้นเราก็กล้าที่จะพูดต่อหน้าศาล ถ้ามีเอกสารตัวไหนที่เราผิดพลาดเรายินดีชดใช้ตรงนั้น แต่อย่ามานั่งชดใช้กันหน้าทีวีเลย ไม่มีผู้ตัดสินอยู่ตรงนั้น”
   
       “ซึ่งโอกาสที่จะถึงชั้นศาลมีแนวโน้มสูงค่ะ ใจโยอยากให้ขึ้น โย พูดกับทนายทุกครั้งเลยว่าถ้าคุยครั้งนี้ไม่จบให้ขึ้นศาล แต่ทนายก็จะพยายามไกล่เกลี่ยให้มันจบอย่างง่ายโดยที่ไม่ต้องยืดเยื้อไปอีก หลายปี ตัวเงินมันไม่มากมายขนาดนั้นหรอก(หัวเราะ)มันไม่ได้มากขนาดที่จะออกข่าว พยายามให้คิดว่ามันมาก มันเลยรู้สึกว่ามันเสียเวลามากเลย ใจโยก็อยากให้จบ เพราะว่ามันมีหลายเรื่องที่มันควรจะต้องฟ้องในฐานะที่เราก็โดนมาเยอะมากตลอด เวลา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ฟังหลายๆ ฝ่ายหลายๆ ผู้ใหญ่ที่เตือนเรา แล้วก็อยากให้มันจบแบบไม่ต้องเป็นศัตรูกันมันก็จะดีที่สุด แต่อย่างที่บอกว่าถ้าครั้งนี้การที่จะเจอกันครั้งสุดท้ายระหว่างทนายเขาทนาย เราแล้วมันไม่จบ ขึ้นศาลแน่นอน ครั้งสุดท้ายคือพรุ่งนี้แล้วค่ะ(19 มีนาคม 2558)
   
       บอกตัวเงินที่เคลียร์กันไม่ลงตัว ไม่สูงถึง 7 หลัก เตรียมงัดไม้เด็ดมาเซอร์ไพรส์
       “คือมันไม่ได้เลขเยอะอะ ไม่ถึง 7 หลัก (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นเหนื่อยที่มายืนอยู่ตรงนี้ (เขาบอกจะจบเดือนกุมภาพันธ์) เขาก็พูดมาตลอด พูดมา 5 เดือนแล้วได้ข่าวว่าพูดจนไม่รู้จะพูดเรื่องไหนแล้วพูดแต่เรื่องเดิมๆ จริงๆ ไม่อยากพูดแล้วนะเพราะมันไม่ใช่หน้าที่ของเราที่ต้องมานั่งคอยแก้เวลาที่เขา พูดนะ เขาอยากจะพูดอะไรตอนนี้ให้เขาพูดไปเลยเรื่องที่ตกใจยังมาไม่ถึง(หัวเราะ)มัน ยังมาไม่ถึงหรอก”
   
       “ถามว่ามีไม้เด็ดไหม มันไม่ใช่เพราะตัวเราหรอกนะ โดนมันทั้งคู่เท่านั้นเองค่ะ เรื่อง นี้มันล่าช้าเพราะใครเดี๋ยวก็รู้เอง เอาตามเท่าที่ดูดีกว่าเนอะ เรื่องเซอร์ไพรส์ยังมี ทั้งคู่แหละ ไม่ต้องห่วงไม่ได้เซอร์ไพรส์เขาคนเดียว เซอร์ไพรส์เราทั้งคู่ถ้าไม่ยอมจบ ตอนนี้ก็เหนื่อยค่ะ บอกตรงๆเหนื่อยกับเรื่องที่มันต้องจบแต่ก็ไม่จบเรื่องซ้ำๆ เดิมๆ พูดไปจนไม่มีอะไรจะต้องพูดแล้ว เอาตามจริงมันก็เป็นเรื่องของคนสองคนธุรกิจเรื่องธุรกิจแบ่งเงินกันแค่นั่น เอง จริงๆ มันไม่น่าจะมีเรื่องอื่นไปมากกว่านี้ถูกไหม ทำไมตัวโยโดนทุกเรื่องเลย โดนทุกมุมจริงๆ”
   
       เผยพร้อมชมเต็มที่เพราะเบื่อมากที่จะต้องพูดแต่เรื่องเดิมๆ อีกทั้งยังกระทบธุรกิจขาดความน่าเชื่อถือ
       “การพูดคุยกันก็จะเป็นทนายเท่านั้นค่ะ ทนายกับทนาย ถ้ายุติ ได้ก็ยุติแต่ไม่มีการต่อรองหรือใดๆ ทั้งสิ้นมันเป็นการเจรจาอย่าใช้คำว่าต่อรอง เราไม่มีอะไรจะต่อรองกับเขา ทุกอย่างของเราทำมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะรับก็รับไม่รับก็ไปขึ้นศาล แค่นั้นเอง ถ้าพรุ่งนี้ไม่จบก็ขึ้นศาลเลยค่ะ ซึ่งต้องขึ้นทั้งคู่ฟ้องร้องกันคนละคดี ถามว่าพร้อมไหม พร้อมเต็มที่มากๆ(หัวเราะ) เพราะเบื่อมาก คิดว่าเปิดต้นปีมาจะมีเรื่องอื่นแล้ว เป็นเรื่องอื่นดีกว่า ตอนนี้เรามีเรื่องธุรกิจของเราที่ต้องดูแลนะไม่มีเวลาว่างพูดถึงเรื่องเดิมๆ
   
       “ซึ่งมันก็กระทบกับธุรกิจ(หัวเราะ) กระทบมากเลยตอนที่เรา เป็นข่าวแรกๆ กำลังแบบขายอาหารเสริมเราอยู่ดีๆ คนก็คิดว่าเฮ้ย…มีปัญหาแบบนี้เป็นเรื่องของตัวเงินความน่าเชื่อถือก็หายไป แต่ท้ายที่สุดก็มีคนมาร่วมธุรกิจกับเราเยอะ เค้าก็คงเชื่อมั่นในสิ่งที่เราทำจริงๆ ตอนนี้ตัวเราเองรวมถึงธุรกิจก็ถือว่ายังมีผู้ลงทุนที่เขาเชื่อมั่นในตัวเรา เราก็ต้องทำงานของเราต่อไป”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น