“โย ยศวดี” เผยให้ทนายจัดการเคลียร์ “บี น้ำทิพย์” ครั้งสุดท้าย
ลั่นไม่มีการต่อรองอะไรอีกแล้ว เหน็บ 5 เดือนพูดแต่เรื่องซ้ำซาก
ยืดเยื้อไม่ยอมจบ บอกถ้าไม่จบเตรียมรอรับเซอร์ไพรส์ เจอกันในศาล
ยันจำนวนเงินเคลียร์กันไม่ลงตัวไม่ถึง 7 หลัก หากมีอะไรผิดพลาดตนยินดีชดใช้
นำทีมขบวนพาเหรดท้าลมร้อนรับซัมเมอร์ ปิดถนนย่านสรงประภา เปิดตัวคอนโดโครงการ “J.W. @ Donmuang” งานนี้
“โย ยศวดี หัสดีวิจิตร” ก็
ไม่วายถูกสื่อมวลชนจับตัวมาเคลียร์กรณีปัญหาคาราคาซังปิดบริษัทอาหารเพื่อ
สุขภาพ ที่ถึงตอนนี้ก็ยังยืดเยื้อไม่ยอมจบ โดยคู่กรณีอดีตเพื่อนรัก
“บี น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์”
ได้ออกมาเปิดใจพร้อมชนอีกฝ่ายเต็มสูบ
โดยสาวโยเผยว่าตนก็พร้อมขึ้นศาลเต็มแก่ บอกแสนเบื่ออีกฝ่ายคุยไม่รู้เรื่อง
ทนายห้ามออกมาพูดถึงเรื่องดังกล่าวแต่ก็ยังเอามาแฉต่อหน้าสื่อไม่ยอมจบ
“
จริงๆ
เวลาประชุมต้องบอกว่าเขามอบหมายหน้าที่มาให้กับเพื่อนชายแล้วเนี่ยก็ไม่เข้า
ใจว่าเขาไม่ได้สื่อสารกันหรือยังไง
เพราะทุกครั้งคือหลังจากประชุมเสร็จทนายกับทนายก็ได้พูดไปแล้ว
ว่าเราจะไม่มีการสัมภาษณ์จนกว่าทุกอย่างจะสรุปเรียบร้อย
แต่เหมือนก็ไม่เคยห้ามได้ เสร็จปุ๊บเขาก็ต้องสัมภาษณ์ทันทีทั้งที่
ตัวเขาก็ไม่เคยเข้าร่วมประชุมด้ว คราวนี้ฟังแล้วก็เลยผ่านๆ
ไม่ได้คิดอะไรผ่านๆ
ไม่ได้ใส่ใจเพราะเราถือว่าในเมื่อมอบหมายมาแล้วตัวเขาเองก็หมดหน้าที่ตรงนี้
แล้วเนอะก็เป็นหน้าที่ของเพื่อนชายเขามาจัดการเอง
แล้วเราก็สื่อสารกับเพื่อนชายเขาได้รู้เรื่องมากกว่าเยอะ
แล้วก็ทางทนายเองก็คุยกันเองมันก็ไม่ได้มีหน้าที่อะไรที่เราสองคนต้องมานั่ง
เถียงกันอีก”
“คือมันจะเคลียร์ไม่ได้ต่อเมื่อมันยังปิดบริษัทไม่ได้ แล้วก็เขาไม่ยอมรับในเงื่อนไขที่เราได้ทำมาแล้ว
แต่
ต้องพูดเลยว่าไม่เคยต่อรองใดๆ ทั้งสิ้นในระยะเวลาที่ผ่านมา 5
เดือนทุกอย่างเป็นเหมือนเดิม
กระดาษตัวเดิมแบบเดิมไม่เคยลดหลั่นอะไรที่เขาต้องการ
เพราะฉะนั้นคือถ้าเขาต้องการอะไรก็ไปพึ่งศาลเท่านั้นไม่เคยต่อรองอะไรด้วย
เลย
คือบางเอกสารที่เขาจำไม่ได้บ้างว่าเขาทำหรือเปล่าหรืออะไรก็ตามตรงนี้ให้
เป็นหน้าที่ของศาล ตัดสินมันก็ง่ายเนอะเพราะเอาตามจริง มัน 5 เดือนแล้ว
ถ้ายังยืนกระต่ายขาเดียวมันก็ไม่จบ”
“จริงๆ ตกลงกันทุกครั้ง แต่เขาคงเห็นว่าไม่มีใครกล้าฟ้องร้องมั้ง
ตัว
เราก็เฉยๆ ไม่ได้ใส่ใจ ที่มันยืดเยื้อเกี่ยวกับจำนวนเงินไหม
คือตอนนี้มันถึงจุดที่เขาไม่ได้เป็นคนตัดสิน
โยถึงบอกว่าโยไม่ยึดติดคำพูดเขาเพราะในเมื่อเพื่อนชายเขาเป็นคนตัดสินโดยมอบ
หมายมาให้แล้ว คือต้องให้คนที่มานั่งดูเอกสารจริงๆ เป็นคนตัดสินน่ะค่ะ เพราะฉะนั้นเขาอยากพูดอะไรก็พูดไป แต่คำที่จะต้องจบก็คือคำพูดของทนายกับเพื่อนชายเขาเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีปัญหาอะไร”
บอกแนวโน้มเจอกันในศาลมีโอกาสสูง ถ้ามีเอกสารตัวไหนผิดพลาดตนยินดีชดใช้คืน
“การนัดหมายขึ้นศาลคงเร็วๆ นี้ จริงๆ ยังไม่ได้ขึ้นศาลเลย เร็วๆ นี้แหละค่ะ
ตัว
เราไม่ได้กลัวนะ อยากจะให้เรื่องขึ้นศาลด้วยซ้ำ
อะไรถูกผิดก็ว่ากันไปเหอะก็คือจบง่ายกว่า คือยังไม่มีใครฟ้องใครค่ะ
เอาตามจริงก็คนที่เดือดร้อนอยู่ก็คงเป็นผู้ฟ้องถูกไหม
ในขณะที่เราไม่ได้เดือดร้อนเพราะฉะนั้นถ้าเขาเดือดร้อนมากก็ให้เขาฟ้องไปเลย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาก็ไม่ได้ฟ้อง
เพราะฉะนั้นคือก็จะรอตรงที่ว่าเอาจุดที่จบแล้วเป็นที่พอใจหรือเปล่าแค่นั้น
เอง (เขาบอกโยไม่ติดต่อไป) อุ้ย ไม่มีหรอกมันไม่ต้องติดต่อเขาหรอก
เขามีทนายเขามีทุกคนมาคุย ไม่มีเหตุผลที่เจอกัน ต้องคุยที่งาน
ไม่มีเหตุและผลในเมื่อเคยประกาศมาแล้วว่าให้เป็นแค่เพื่อนร่วมโลกก็ขอให้ยึด
คำพูดนั้นต่อไปเรื่อยๆ แล้วก็คุยแต่เรื่องธุรกิจพอแล้ว”
“ไม่ได้เชื่อมั่นในหลักฐานที่มี
แล้วก็ไม่สามารถพูดยืนยัน
ได้ว่าตัวเองเป็นคนดี
ต่อให้เป็นคนดีก็ไม่กล้าพูดเพราะฉะนั้นถือว่าอะไรที่เราเคยทำเราจำได้เราคน
ทำงานตรงนี้เองทุกอย่าง ผ่านตาผ่านมือเรามาทั้งหมด จะบอกว่าไม่รู้
ไม่ทราบไม่ได้ เรารู้ทุกเรื่องเพราะฉะนั้นเราก็กล้าที่จะพูดต่อหน้าศาล
ถ้ามีเอกสารตัวไหนที่เราผิดพลาดเรายินดีชดใช้ตรงนั้น
แต่อย่ามานั่งชดใช้กันหน้าทีวีเลย ไม่มีผู้ตัดสินอยู่ตรงนั้น”
“ซึ่งโอกาสที่จะถึงชั้นศาลมีแนวโน้มสูงค่ะ ใจโยอยากให้ขึ้น
โย
พูดกับทนายทุกครั้งเลยว่าถ้าคุยครั้งนี้ไม่จบให้ขึ้นศาล
แต่ทนายก็จะพยายามไกล่เกลี่ยให้มันจบอย่างง่ายโดยที่ไม่ต้องยืดเยื้อไปอีก
หลายปี
ตัวเงินมันไม่มากมายขนาดนั้นหรอก(หัวเราะ)มันไม่ได้มากขนาดที่จะออกข่าว
พยายามให้คิดว่ามันมาก มันเลยรู้สึกว่ามันเสียเวลามากเลย
ใจโยก็อยากให้จบ
เพราะว่ามันมีหลายเรื่องที่มันควรจะต้องฟ้องในฐานะที่เราก็โดนมาเยอะมากตลอด
เวลา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ฟังหลายๆ ฝ่ายหลายๆ ผู้ใหญ่ที่เตือนเรา
แล้วก็อยากให้มันจบแบบไม่ต้องเป็นศัตรูกันมันก็จะดีที่สุด
แต่อย่างที่บอกว่าถ้าครั้งนี้การที่จะเจอกันครั้งสุดท้ายระหว่างทนายเขาทนาย
เราแล้วมันไม่จบ ขึ้นศาลแน่นอน ครั้งสุดท้ายคือพรุ่งนี้แล้วค่ะ(19 มีนาคม
2558)
บอกตัวเงินที่เคลียร์กันไม่ลงตัว ไม่สูงถึง 7 หลัก เตรียมงัดไม้เด็ดมาเซอร์ไพรส์
“คือมันไม่ได้เลขเยอะอะ ไม่ถึง 7 หลัก (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นเหนื่อยที่มายืนอยู่ตรงนี้ (เขาบอกจะจบเดือนกุมภาพันธ์)
เขาก็พูดมาตลอด พูดมา 5 เดือนแล้วได้ข่าวว่าพูดจนไม่รู้จะพูดเรื่องไหนแล้วพูดแต่เรื่องเดิมๆ
จริงๆ
ไม่อยากพูดแล้วนะเพราะมันไม่ใช่หน้าที่ของเราที่ต้องมานั่งคอยแก้เวลาที่เขา
พูดนะ
เขาอยากจะพูดอะไรตอนนี้ให้เขาพูดไปเลยเรื่องที่ตกใจยังมาไม่ถึง(หัวเราะ)มัน
ยังมาไม่ถึงหรอก”
“ถามว่ามีไม้เด็ดไหม มันไม่ใช่เพราะตัวเราหรอกนะ โดนมันทั้งคู่เท่านั้นเองค่ะ
เรื่อง
นี้มันล่าช้าเพราะใครเดี๋ยวก็รู้เอง เอาตามเท่าที่ดูดีกว่าเนอะ
เรื่องเซอร์ไพรส์ยังมี ทั้งคู่แหละ ไม่ต้องห่วงไม่ได้เซอร์ไพรส์เขาคนเดียว
เซอร์ไพรส์เราทั้งคู่ถ้าไม่ยอมจบ ตอนนี้ก็เหนื่อยค่ะ
บอกตรงๆเหนื่อยกับเรื่องที่มันต้องจบแต่ก็ไม่จบเรื่องซ้ำๆ เดิมๆ
พูดไปจนไม่มีอะไรจะต้องพูดแล้ว
เอาตามจริงมันก็เป็นเรื่องของคนสองคนธุรกิจเรื่องธุรกิจแบ่งเงินกันแค่นั่น
เอง จริงๆ มันไม่น่าจะมีเรื่องอื่นไปมากกว่านี้ถูกไหม
ทำไมตัวโยโดนทุกเรื่องเลย โดนทุกมุมจริงๆ”
เผยพร้อมชมเต็มที่เพราะเบื่อมากที่จะต้องพูดแต่เรื่องเดิมๆ อีกทั้งยังกระทบธุรกิจขาดความน่าเชื่อถือ
“การพูดคุยกันก็จะเป็นทนายเท่านั้นค่ะ ทนายกับทนาย
ถ้ายุติ
ได้ก็ยุติแต่ไม่มีการต่อรองหรือใดๆ
ทั้งสิ้นมันเป็นการเจรจาอย่าใช้คำว่าต่อรอง เราไม่มีอะไรจะต่อรองกับเขา
ทุกอย่างของเราทำมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะรับก็รับไม่รับก็ไปขึ้นศาล
แค่นั้นเอง ถ้าพรุ่งนี้ไม่จบก็ขึ้นศาลเลยค่ะ
ซึ่งต้องขึ้นทั้งคู่ฟ้องร้องกันคนละคดี ถามว่าพร้อมไหม
พร้อมเต็มที่มากๆ(หัวเราะ) เพราะเบื่อมาก
คิดว่าเปิดต้นปีมาจะมีเรื่องอื่นแล้ว เป็นเรื่องอื่นดีกว่า
ตอนนี้เรามีเรื่องธุรกิจของเราที่ต้องดูแลนะไม่มีเวลาว่างพูดถึงเรื่องเดิมๆ
“ซึ่งมันก็กระทบกับธุรกิจ(หัวเราะ)
กระทบมากเลยตอนที่เรา
เป็นข่าวแรกๆ กำลังแบบขายอาหารเสริมเราอยู่ดีๆ
คนก็คิดว่าเฮ้ย…มีปัญหาแบบนี้เป็นเรื่องของตัวเงินความน่าเชื่อถือก็หายไป
แต่ท้ายที่สุดก็มีคนมาร่วมธุรกิจกับเราเยอะ
เค้าก็คงเชื่อมั่นในสิ่งที่เราทำจริงๆ
ตอนนี้ตัวเราเองรวมถึงธุรกิจก็ถือว่ายังมีผู้ลงทุนที่เขาเชื่อมั่นในตัวเรา
เราก็ต้องทำงานของเราต่อไป”