วันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2558

“เงินยูโร” อ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 11 ปี หลังพรรคต้านรัดเข็มขัด “กรีซ” คว้าชัยเลือกตั้ง

รอยเตอร์/เอเอฟพี – อเล็กซิส ซีปราส ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของกรีซ ให้คำมั่นว่าจะนำพาประเทศหลุดพ้นจากมาตรการรัดเข็มขัดเข้มงวดที่ได้สร้าง “ความอัปยศและความเจ็บปวด” ต่อกรีซมานานถึง 5 ปี หลังพรรคฝ่ายซ้ายซีรีซา (Syriza) ของเขากวาดคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในศึกเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ (25) ซึ่งทำให้ผู้นำยุโรปออกมาแสดงความกังวลต่ออนาคตของเอเธนส์ และฉุดรั้งเงินยูโรจนอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 11 ปี
      
       จากผลการนับคะแนนที่ผ่านไปราว 92 เปอร์เซ็นต์ พรรคซีรีซามีแนวโน้มจะได้ที่นั่งในสภา 149 จากทั้งหมด 300 ที่นั่ง และคว้าคะแนนเสียงร้อยละ 36.2 มากกว่าพรรคประชาธิปไตยใหม่ของนายกรัฐมนตรี อันโตนิส ซามาราส ที่กำลังจะหมดอำนาจลงถึง 8.5 แต้ม
      
       แม้ว่า ซามาราส จะออกมายอมรับความพ่ายแพ้ แต่ยังต้องรอดูผลการเลือกตั้งสรุปที่จะประกาศในช่วงเช้าวันนี้ (26) ว่า พรรคซีรีซาจะสามารถคว้าที่นั่งในสภาได้ถึง 151 จนสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้หรือไม่
      
       อย่างไรก็ดี เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ซีปราส วัย 40 ปี กำลังจะกลายเป็นนายกฯ คนแรกในกลุ่มยูโรโซนที่ประกาศจุดยืนต่อต้านนโยบายรัดเข็มขัด ซึ่งสหภาพยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้กำหนดเป็นเงื่อนไขเพื่อปล่อยเงินกู้แก่กรีซ
      
       “กรีซได้ก้าวข้ามมหันตภัยรัดเข็มขัดมาแล้ว เราทิ้งความหวาดกลัวและลัทธิอำนาจนิยมไว้เบื้องหลัง เราได้ผ่านช่วงเวลา 5 ปีแห่งความอับยศและความเจ็บปวดมาแล้ว” ซีปราส กล่าวต่อบรรดาผู้สนับสนุนหลายพันคนที่มาชุมนุม ณ กรุงเอเธนส์
      
       ปฏิกิริยาตอบสนองจากตลาดเงินสะท้อนความกังวลที่นักลงทุนมีต่อพรรคซี รีซา ซึ่งประกาศจะเจรจาปรับเงื่อนไขในข้อตกลงกู้ยืมของกรีซ จนอาจก่อความขัดแย้งกับรัฐบาลอื่นๆ ในกลุ่มยูโรโซน
      
       ผลเลือกตั้งในกรีซฉุดเงินสกุลยูโรให้อ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 11 ปีชั่วระยะเวลาสั้นๆ โดยแตะระดับ 1.1088 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อยูโรในตลาดโตเกียวเมื่อช่วงเช้า ทุบสถิติต่ำสุดตั้งแต่ปี 2003 ก่อนที่จะขยับขึ้นมาเป็น 1.169 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อยูโร เมื่อเวลา 0.40 น. GMT
      
       ก่อนหน้านี้ เงินยูโรได้อ่อนค่าลงไปเหลือเพียง 1.1115 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อยูโรในตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (23) หลังจากที่ธนาคารกลางแห่งยุโรป (อีซีบี) ประกาศนโยบายรับซื้อพันธบัตรเพื่อผ่อนคลายวิกฤตหนี้ของยูโรโซน
      
       เยอรมนีซึ่งมีเศรษฐกิจแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มยูโรโซนเรียกร้องให้ผู้ นำคนใหม่ของกรีซเคารพเงื่อนไขกู้ยืมมูลค่า 240,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่กรีซทำไว้กับเจ้าหนี้ “ทรอยกา” อันประกอบด้วยสหภาพยุโรป, ไอเอ็มเอฟ และอีซีบี ซึ่งจะช่วยให้เอเธนส์รอดจากภาวะล้มละลาย ทว่าพลเมืองกรีซก็ต้องยอมที่จะเสียสละครั้งใหญ่ด้วย
      
       ธนาคารกลางเยอรมนี หรือ “บุนเดสแบงก์” เตือนว่า กรีซจำเป็นต้องปฏิรูปเพื่อที่จะก้าวพ้นวิกฤตการคลังไปให้ได้
      
       ซีปราส ยืนยันว่า ตนพร้อมจะให้ความร่วมมือกับผู้นำกลุ่มยูโรโซนเพื่อทางออกที่ “เป็นธรรมและได้ประโยชน์ทุกฝ่าย” แต่คุณภาพชีวิตของพลเมืองกรีซจะต้องมาก่อน
      
       “สิ่งแรกที่เราจะทำคือการเยียวยารักษาบาดแผลจากวิกฤต... สิ่งสำคัญที่สุดของเราคือการกอบกู้ศักดิ์ศรีที่ประเทศชาติและประชาชนของเรา สูญเสียไป”
      
       ซีปราส สัญญาว่าจะรักษาสมาชิกภาพของกรีซในยูโรโซนต่อไป และผ่อนปรนท่าทีแข็งกร้าวลงเล็กน้อย แต่ถึงกระนั้นการก้าวสู่อำนาจของเขาก็ยังถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับ แนวทางแก้ไขวิกฤตหนี้สินที่ยูโรโซนกำลังใช้อยู่
      
       นักวิเคราะห์มองว่า ชัยชนะของพรรคซีรีซาในกรีซอาจกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้แก่พรรคต่อต้าน มาตรการรัดเข็มขัดอื่นๆ ที่กำลังมาแรงในยุโรป โดยเฉพาะพรรค “โปเดโมส” (Podemos) ในสเปน และขณะเดียวกันก็ “เข้าทาง” ของผู้นำคนสำคัญในยุโรป เช่น ประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรี มัตเตโอ เรนซี แห่งอิตาลี ซึ่งเห็นว่านโยบายจำกัดจำเขี่ยงบประมาณไม่ได้ช่วยให้เศรษฐกิจของยุโรปเติบโต
      
       ซีปราส จะต้องเตรียมตัวรับศึกหนักหลายด้าน รวมไปถึงการเจรจากับหุ้นส่วนในยุโรป โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี
      
       ทั้งนี้ หากพรรคซีรีซาไม่สามารถคว้าที่นั่ง ส.ส. เกินครึ่งหนึ่งของสภาก็จะต้องเจรจาจับขั้วกับพรรคเล็กๆ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งพรรคอินดิเพนเดนต์กรีกส์ และพรรคสายกลาง โต โปตามี ได้ประกาศแล้วว่า พร้อมสนับสนุนรัฐบาลพรรคซีรีซาที่ไม่เอามาตรการรัดเข็มขัด
      
       อย่างไรก็ดี นั่นเท่ากับว่าพรรคซีรีซากำลังพาตัวเองไปสู่สถานะ “ตัวประกัน” ที่จะต้องปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อรักษาเสียงสนับสนุน และก่อให้เกิดคำถามสำคัญว่า รัฐบาล ซีปราส จะอยู่ได้นานเพียงใด 


 “เงินยูโร” อ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 11 ปี หลังพรรคต้านรัดเข็มขัด “กรีซ” คว้าชัยเลือกตั้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น