วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

"ปลื้ม" แจงกรณี "ทับทิม" ถูกจวกเข้าข่ายโฆษณาเกินจริง

Cr : Manager Online


ปลื้ม แจงกรณีดรามาครีม ทับทิม หลังถูกจวกเข้าข่ายโฆษณาเกินจริง
ทับทิม - ปลื้ม

ปลื้ม แจงกรณีดรามาครีม ทับทิม หลังถูกจวกเข้าข่ายโฆษณาเกินจริง
ภาพทีมีการโพสต์ผ่านโลกออนไลน์ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าจะเป็นการโฆษณาเกินจริงหรือไม่?

ปลื้ม แจงกรณีดรามาครีม ทับทิม หลังถูกจวกเข้าข่ายโฆษณาเกินจริง
อิน สตาแกรมนักแสดงหญิง "นิวเคลียร์ หรรษา" มีข้อความเกี่ยวข้องกับข่าวกรณีดีเอสไอบุกจับโรงงงานผลิตอาหารเสริมและยา ตลอดจนผลิตภํณฑ์เกี่ยวกับความงามชื่อดัง

  "ทับทิม" ลบข้อความชี้แจงกรณีถูกจวกส่อโฆษณาครีมบำรุงผิวเกินจริง ทั้งเปลี่ยนรูปหน้า รักษาอาการเส้นเลือดในสมองแตก ขาโก่ง ฯ ด้าน "ปลื้ม" ขอแสดงความเห็น บอกไม่เข้าใจโจมตีราวกับขายยาบ้า ลั่นอย่าเหมารวมธุรกิจอาหารเสริมเลวหมด
      
        งานเข้าอย่างจังกันเลยทีเดียวสำหรับพิธีกรสาวทีวีออนไลน์ vrzo "ทับทิม มัลลิกา หลีกภัย" หลังเป็นที่น่าสังเกตว่าที่ผ่านมาเจ้าตัวได้โพสต์ภาพตลอดจนข้อความเกี่ยวกับ ครีมบำรุงผิวยี่ห้อหนึ่งที่สามารถทำให้เข้าใจได้ว่าครีมยี่ห้อนี้นอกจากจะมี สรรพคุณช่วยทำให้ใบหน้าผ่องใส ช่วยในการขับสารพิษ เปลี่ยนรูปหน้าแล้ว ยังสามารถช่วยลดอาการเส้นเลือดในสมองแตก บรรเทาอาการข้อเข่าเสื่อม ขาโก่ง ฯ จนดูเหมือนว่าจะเข้าข่ายการโฆษณาเกินจริงรวมถึงมีการนำเอาภาพเด็กมาลงโฆษณา ด้วยนั้น
      
        หลังจากที่เรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นออกมา ทางด้านพิธีกรหญิงก็ได้โพส์ข้อความชี้แจงรายละเอียดต่างๆ ผ่านทางเฟซบุ๊กตนเองที่หน้าแฟนเพจ TubTimMallika โดยเผยว่าภาพต่างๆ นั้นมาจากทางลูกค้าที่ได้ใช้แล้วเห็นผล ตนเพียงแค่นำมาเผยแพร่ ก่อนบอกว่าจะเป็น ทาง อย. หรือทาง สคบ. ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ เช่นเรื่องของภาษีจะเข้ามาตรวจสอบก็ได้ ซึ่งต่อมาเมื่อผู้สื่อข่าวได้เข้าไปตรวจสอบเฟซบุ๊กดังกล่าวก็ปรากฏว่าข้อ ความดังกล่าวได้หายไปแล้ว
      
        อย่างไรก็ตาม ล่าสุดก็เป็นทางด้านของหนุ่ม "ปลื้ม สุรบถ หลีกภัย" ลูกชายของอดีตนายกฯ "ชวน หลีกภัย" ผู้เป็นสามีที่ได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรม @vrzopleum ถึงเรื่องนี้โดยระบุว่าไม่ได้จะมาเข้าข้างภรรยาแต่จะมาชี้แจงในมุมมองของตน เอง
      
        ทั้งนี้เจ้าตัวได้ยืนยันว่าธุรกิจดังกล่าวนั้นเป็นธุรกิจของครอบครัวภรรยา ที่ทำกันมานานแล้ว ก่อนที่สาวทับทิมจะมารับหน้าที่พิธีกรที่ vrzo ด้วยซ้ำไป พร้อมยืนยันอีกฝ่ายแค่ไปช่วยงานครอบครัวและไม่ได้ผลประโยชน์อะไรเลย ซึ่งตนมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีด้วยซ้ำกับการที่ลูกจะช่วยเหลือทาง บ้าน และไม่เข้าใจว่าทำไมเพียงแค่การขายครีมบำรุงผิวนั้นจะต้องถูกโจมตีราวกับขาย ยาบ้าด้วย
      
        นอกจากนี้เจ้าตัวยังได้ชี้แจงไปถึงกรณีการโฆษณาอาหารเสริมผ่านรายการด้วยว่า เรื่องนี้ภรรยาสาวก็ไม่ได้ผลประโยชน์อะไรเพิ่มเติมเพราะป็นการโฆษณา ผ่านบริษัท พร้อมกับยืนยันว่าทางบริษัทได้มีการตรวจสอบสินค้าที่จะมาลงโฆษณาแล้วเป็น อย่างดี ก่อนบอกหลายคนอาจจะมีอคติกับธุรกิจประเภทนี้ว่าเป็นการหลอกลวงซึ่งก็มีหลาย ยี่ห้อที่เป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่การจะไปเหมารวมคนที่ทำธุรกิจประเภทนี้ทั้งหมดคงไม่ได้
      
        "เห็นมีดราม่าเรื่องครีมทับทิมเลยอยากพูดสักหน่อย อย่าหาว่าผมมาปกป้องภรรยานะครับ เพราะนี่คือความคิดผมจริงๆ มีการโจมตีทับทิมทำนองว่า"เป็นถึงตัวอย่างของเยาวชนทำไมถึงมาขายครีมหรือพวก อาหารเสริม? เห็นแก่เงินเกินไปรึเปล่า?" ผมบอกตรงนี้เลยนะครับว่า "ทับทิมเค้าแทบไม่ได้ผลประโยชน์อะไรเลยครับ" เพราะตัวครีม CELEB เป็นธุรกิจที่บ้านของทับทิมเค้าและบ้านเค้าทำกันมานานหลายปีมากแล้ว ตั้งแต่ก่อนทับทิมจะมาทำVRZOด้วยซ้ำ"
      
        "แล้วด้วยความที่เค้าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเค้า เค้าก็ต้องมาช่วยครอบครัวเค้าค้าขายก็เป็นเรื่องธรรมชาติ แถวบ้านผมถ้าลูกคนไหนในบ้านทำบัญชีเก่งก็ต้องมาทำบัญชี คนไหนแข็งแรงก็มาช่วยแบกของ คนไหนเก่งอะไรก็ต้องมาช่วยงานที่บ้านทั้งนั้น ทับทิมเค้าเป็นนักแสดงเค้าก็ช่วยบ้านเค้าในแบบของเค้า สำหรับผมคนที่ไม่ช่วยที่บ้านทำงานของที่บ้านเลยนี่สิแปลก แถมของที่เค้าขายก็เป็นแค่ครีมบำรุงผิว ผมก็ยังไม่เข้าใจว่าคนที่โจมตีทำไมถึงมองมันรุนแรงและผิดอย่างกับขายยาบ้า ของก็ถูกต้องตามหลักทุกอย่างอย.ก็มี ดูยังไงมันก็เป็นสินค้าปกติธรรมดาที่ขายได้ถูกกฎหมาย"
      
        "อีกเรื่องคือเรื่องโฆษณาอาหารเสริม "เจ้านี่ทับทิมก็แทบไม่ได้ผลประโยชน์อะไรเหมือนกันครับ" เพราะงานพวกนี้เป็นงานผ่านบริษัท ทับทิมได้รายได้แบบเงินเดือนเหมือนพนักงานคนอื่นๆ เพราะฉะนั้นของขายดีแค่ไหนทับทิมก็ไม่ได้เงินเพิ่มหรอกครับ แต่ด้วยความที่หากบริษัทตัดสินใจรับงานมาแล้วทับทิมก็ต้องทำหน้าที่โปรโมทอ ย่างเต็มที่เพราะมันเป็นงานของเค้าครับ เราเป็นบริษัทผลิตรายการและโฆษณาเราก็ต้องทำงานอย่างมืออาชีพ หากถามว่าแล้วทำไมถึงรับงานพวกอาหารเสริมมาล่ะ? คำตอบก็คือ"ก็เพราะเราลองเช็คโดยระเอียดแล้วว่ามันไม่ได้เป็นของไม่ดีหรือ ของหลอกลวงครับ"
      
        "ก่อนเราจะรับทำโปรโมทให้ของสักชิ้น เราต้องลองแล้วลองอีกเทสแล้วเทสอีกและทำความเข้าใจกับสินค้าจนละเอียด สุดท้ายถึงจะตัดสินใจได้ว่า"โอเคอันนี้เป็นของดีมีคุณภาพ" เราถึงจะยอมรับทำโปรโมทให้กับสินค้าตัวนั้นครับ เพราะเรารู้ดีว่ามีคนติดตามเราอยู่เยอะ เราจะปล่อยให้มีของอันตรายหรือของไม่มีคุณภาพมาอยู่ในงานของเราไม่ได้เด็ด ขาดครับ หลายๆท่านอาจจะเกิดอคติกับอาหารเสริมจนรู้สึกว่าเป็นธุรกิจหลอกลวงเพราะเอา จริงๆมันก็มีอาหารเสริมหลอกลวงและแย่ๆอยู่เยอะครับ แต่เราจะมาเหมารวมทุกคนที่ทำอาชีพขายอาหารเสริมว่าเป็นธุรกิจหลอกลวงมันก็ ไม่ใช่เรื่องเพราะอันดีๆมันก็มี เราก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับคนที่เค้าทำอาชีพสุจริตจ่ายภาษีครบทุกบาท เหมือนๆกับเราเช่นกันครับ (ยังมีแต่ในคอมเม้นแรกครับ)"
      
        ขณะที่ในส่วนของความเคลื่อนไหวต่อกรณีที่ทางดีเอสไอได้เข้าทำการจับกุม ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมยี่ห้อดังรวมถึงโรงงานผลิตซึ่งตรวจสอบพบว่าโรงงงานดัง กล่าวได้ผลิตให้กับสินค้าหลากหลายยี่ห้อที่เหล่าคนในแวดวงบันเทิงมี หุ้น-เป็นเจ้าของอยู่ด้วยนั้น (อ่านรายละเอียด จับยา-โรงงานยาลดอ้วน พบผลิตให้ "เซเลบ-ซุปตาร์" วงการบันเทิงเพียบ!) ล่าสุดในอินสตาแกรมของสาว "นิวเคลียร์ หรรษา" ก็ได้มีการโพสต์ข้อความเพื่อการันตีถึงความปลอดภัยของสินค้าตนเองเช่นเดียว กับที่ในอินสตาแกรมของสาว "พลอย เฌอมาลย์" ก็เคยมีข้อความทำนองเดียวกันนี้ออกมาก่อนหน้านี้แล้วเช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น